วันขึ้นปีใหม่ หนึ่งวันมงคลของไทย-จีน

 1 มกราคม เป็นวันที่ผู้คนจากหลากหลายประเทศให้ความสำคัญ เพราะเป็นวันของการเปลี่ยนผ่านจากปีเก่าเข้าสู่ปีใหม่ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นศักราชใหม่ แต่ทั้งนี้วันปีใหม่ของแต่ละเชื้อชาติเองก็แตกต่างกันออกไปตามศาสนา ความเชื่อ และรูปแบบวิธีการนับตามปฏิทิน 

การเปลี่ยนผ่านก่อนจะกลายมาเป็นวันขึ้นปีใหม่ในปัจจุบัน

วันขึ้นปีใหม่ คือ การขึ้นรอบใหม่หลังโลกโคจรรอบดวงอาทิตย์ครบ 365 รอบ (ซึ่งนับเป็น 12 เดือน หรือ 1 ปี) ทั้งนี้การนับวันขึ้นปีใหม่นั้นมีการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย

1 มกราคม วันขึ้นปีใหม่สากลในปัจจุบันมีที่มาจากชาวบาบิโลน
ย้อนกลับไปในสมัยของชาวบาบิโลน ที่มาจากชนชาติบาบิโลเนียซึ่งมีถิ่นกำเนิดอยู่ที่ลุ่มแม่น้ำยูเฟเฟรทีสและเป็นชนชาติโบราณที่ได้คิดค้นการนับวันเวลารวมถึงการอ่านปฏิทินได้เป็นชนชาติแรก ๆ ของอารยธรรมสมัยโบราณ การนับปฏิทินตามแบบของชาวบาบิโลนนั้นจะมีการนับที่ไม่เหมือนกันกับในปัจจุบันตามที่เราคุ้นเคย เพราะชาวบาบิโลนจะมีการนับปฏิทินตามรอบของดวงจันทร์ คือ เมื่อครบรอบ 12 เดือน จะนับเป็น 1 ปี และมีการเพิ่มรอบเดือนเข้ามาอีก 1 เดือน ในทุก ๆ 4 ปี เพื่อให้ตรงกันกับฤดูกาลของโลก โดยจะนับเป็น 13 เดือน ในทุก 4 ปี ทำให้วันขึ้นปีใหม่ในยุคสมัยของชาวบาบิโลนนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปในทุก 4 ปี


ปรับเปลี่ยนการนับวันขึ้นปีใหม่ครั้งแรก
การนับปีใหม่ในรูปแบบของชาวบาบิโลนมีการปรับเปลี่ยนโดยชาวอียิปต์และชาวกรีก รวมไปถึงชาวเซมิติค เนื่องจากรูปแบบการนับระยะเวลาของชาวบาบิโลนนั้นยังไม่มีความเสถียรมากพอ โดยมีการปรับให้ใน 1 ปี มีวันทั้งหมด 365 วัน และเพิ่มการนับช่วงวันเข้ามาอีก 1 วัน ในรอบ 4 ปี นั่นจึงหมายความว่า ในทุก ๆ 4 ปี จะมีวันทั้งหมด 366 วัน ให้ตรงกับช่วงฤดูกาลและไม่ทำให้ระยะเวลาคลาดเคลื่อนเกินไปนัก ส่วนวันที่ถูกเพิ่มเข้ามาจะตรงกับช่วงเดือนกุมภาพันธ์ นั่นจึงทำให้เป็นเหตุผลว่า ทำไมเดือนกุมภาพันธ์จึงมีวันที่ 29 ในทุก ๆ 4 ปี แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังคงมีความคลาดเคลื่อนของวันอยู่

วันขึ้นปีใหม่ที่ยึดถือกันในปัจจุบัน
ต่อมาการนับเวลาก็ได้ถูกปรับเปลี่ยนอีกครั้ง ในสมัยของพระสันตะปาปาเกรกอรี่ที่ 13 ผู้คิดค้นปฏิทินเกรโกเรียน โดยได้มีการลดจำนวนวันในปีออกไปอีก 10 วัน เนื่องจากพระสันตะปาปาเห็นว่าจะมีวันในช่วง “วสันตวิษสุวัต” หรือ วันราตรีเสมอภาค(Equinox) ที่กลางวันยาวนานเท่ากับกลางคืนเป็นช่วงที่ทำให้การนับระยะเวลาในปฏิทินคลาดเคลื่อน แล้วจากนั้นจึงมีการตั้งให้วันที่ 1 มกราคม ของทุกปีเป็นวันขึ้นปีใหม่

วันขึ้นปีใหม่ของไทย

ในอดีต ไทยมีการยึดถือวันขึ้นปีใหม่ตามความเชื่อทางพุทธศาสนา โดยถือเอาวันแรม 1 ค่ำ เดือนอ้าย เป็นวันขึ้นปีใหม่ แต่ต่อมาได้ปีการปรับเปลี่ยนวันปีใหม่ให้เป็นไปตามคติความเชื่อทางพราหมณ์ คือ การยึดเอาวันขึ้น 1 ค่ำ เดือน 5 เป็นวันขึ้นปีใหม่แทน

ก่อนจะมีการปรับเปลี่ยนอีกครั้งในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่5) ตามการนับแบบรัตนโกสินทรศก (ร.ศ.108) ซึ่งเป็นการนับศักราชแบบไทย ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ไทยใช้วันที่ 1 เมษายน เป็นวันขึ้นปีใหม่

ทั้งนี้ด้วยอิทธิพลทางด้านการนับวันเวลาที่คนไทยรับมาจากตะวันตก ทำให้เรามักจะฉลองปีใหม่กันในวันที่1 มกราคม แทนการฉลองปีใหม่ในช่วงเดือนเมษายน

กิจกรรมสำคัญในวันขึ้นปีใหม่ของไทย

กิจกรรมวันขึ้นปีใหม่ของไทย มักจะเป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนาและความมงคล เนื่องจากชาวไทยส่วนใหญ่นั้นเป็นพุทธศาสนิกชนที่ให้ความสำคัญกับพระพุทธศาสนา กิจกรรมหลัก จึงจะมีดังนี้

1. ทำบุญตักบาตรรับปีใหม่
ในวันขึ้นปีใหม่จะมีการตื่นเช้ารับความสดใสของวันใหม่ มีการเตรียมข้าวสาร อาหารแห้ง เพื่อทำบุญตักบาตรเพื่อเสริมความเป็นสิริมงคลให้กับตัวเองและครอบครัว

2. สรงน้ำพระ
วันปีใหม่ของไทยจะอยู่ในช่วงเดือนเมษายน ซึ่งเป็นช่วงฤดูร้อนของประเทศพอดี จึงจะมีการจัดกิจกรรมสรงน้ำพระเพื่อคลายร้อน โดยการนำเอาน้ำอบลอยดอกไม้ไปสรงน้ำพระที่วัดหรือที่หิ้งพระภายในบ้านของตัวเอง แล้วขอพรให้พบเจอแต่ความสำเร็จ สุขภาพแข็งแรง

3. อวยพรผู้ใหญ่ มอบของขวัญให้บุคคลสำคัญ
นอกจากทำบุญตักบาตรแล้ว ชาวไทยก็จะมีการไปเยี่ยมเยียนญาติผู้ใหญ่ในครอบครัวที่ให้ความเคารพนับถือ เพื่อขอพรท่านให้ท่านอวยพรให้ประสบพบเจอแต่ความโชคดี บ้างก็จะมีการนำของขวัญปีใหม่ไปมอบให้กับบุคคลสำคัญ เช่น เจ้านาย ญาติพี่-น้อง มิตรสหาย เป็นต้น

การอวยพรผู้ใหญ่ในวันปีใหม่ของไทย

รดน้ำดำหัวผู้ใหญ่
ชาวไทยให้ความสำคัญกับเรื่องของ “ความกตัญญู” เป็นอย่างมาก ดังนั้นเมื่อถึงช่วงปีใหญ่ก็จะมีการไปเยี่ยมญาติผู้ใหญ่ และทำกิจกรรมรดน้ำดำหัวเพื่ออวยพรให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรง จากนั้นทางฝั่งของผู้ใหญ่ก็จะมีการอวยพรให้ลูกหลานประสบความสำเร็จในชีวิต

วันขึ้นปีใหม่ของจีน

วันปีใหม่ของชาวจีน จะอยู่ในช่วงของสารทลิบชุง (立春) ซึ่งเป็นช่วงฤดูใบไม้ผลิที่อากาศเริ่มมีความอบอุ่น นับเป็นวันที่ 1 เดือน 1 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน ซึ่งมักจะตรงกับช่วงเดือนกุมภาพันธ์ โดยปีใหม่ของจีน จะถูกเรียกว่า “วันปีใหม่จันทรคติ” หรือ “วันตรุษจีน” เป็นการสิ้นสุดปีเก่า เริ่มต้นฤดูกาลใหม่และปีใหม่ ชาวจีนจะให้ความสำคัญกับวันตรุษจีนเป็นอย่างมาก เหมือนกันกับที่ชาวไทยให้ความสำคัญกับวันสงกรานต์ คือ จะมีวันหยุดยาวหลายวันเพื่อที่จะได้ไปใช้เวลาพักผ่อนและอยู่กับครอบครัว

กิจกรรมสำคัญในวันขึ้นปีใหม่ของจีน

เฉลิมฉลองปีใหม่พร้อมหน้าพร้อมตากันกับครอบครัว เพราะชาวจีนเชื่อว่าเมื่อเป็นวันดี ก็จะต้องอยู่ฉลองพร้อมหน้าพร้อมตากับคนในครอบครัว ทั้งยังเป็นการกระชับความสัมพันธ์กับญาติมิตรให้แน่นแฟ้นขึ้นอีกด้วย โดยชาวจีนจะมีการตระเตรียมอาหารมงคลเพื่อเฉลิมฉลองอยู่กับบ้าน ไหว้เทพเจ้าและบรรพบุรุษรับความมงคลแก่ตัว
ชาวจีนเชื่อกันว่าในวันปีใหญ่นี้จะเป็นวันที่เทพเจ้าเสด็จลงมาจากสวรรค์เพื่อประทานพรเกี่ยวกับความเจริญรุ่งเรื่องให้กับมนุษย์ ดังนั้นเพื่อต้อนรับเทพเจ้าที่เสด็จลงมา จึงมีการจัดเตรียมของไหว้เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัว นอกจากนั้นชาวจีนยังมีการไหว้บรรพบุรุษที่ล่วงลับไปแล้วเพื่อแสดงถึงความกตัญญูให้ท่านได้ทราบ ว่าลูกหลานยังระลึกถึงท่านอยู่เสมอ

อวยพรผู้ใหญ่
ความกตัญญู เป็นสิ่งที่ชาวจีนยึดถือและให้ความสำคัญเป็นอันดับต้นๆเช่นกัน ดังนั้นกิจกรรมสำคัญอีกหนึ่งกิจกรรมในวันขึ้นปีใหม่ของจีนนั่นก็คือ การกล่าวอวยพรและมอบของขวัญให้กับผู้ใหญ่ที่เคารพ เพื่อแสดงความกตัญญูต่อผู้ใหญ่ที่เคารพ

การอวยพรผู้ใหญ่ในวันปีใหม่ของจีน

มอบส้มมงคล กล่าวอวยพร รับอั่งเปา
การอวยพรผู้ใหญ่ของชาวจีนในช่วงวันปีใหม่นั้น ลูกหลานจะมีการนำผลไม้มงคลอย่าง ส้ม4ผลไปมอบให้กับผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ พร้อมกล่าวอวยพรให้ท่านมีสุขภาพแข็งแรง อายุยืนยาวอยู่กับลูกหลานไปนาน ๆ แล้วจากนั้นผู้ใหญ่ก็จะมีการมอบอั่งเปาหรือว่าเงินอวยพรปีใหม่กลับมาให้ลูกหลานแทนคำขอบคุณที่ลูกหลานได้มาอวยพรให้

ปีใหม่ช่วงเวลาดีสำหรับฤกษ์มงคล 

วันขึ้นปีใหม่ เป็นวันที่ทั้งชาวไทยและชาวจีนถือว่าเป็นวันดี เหมาะแก่การทำการมงคล ดังนั้นเราจึงมักจะเห็นว่าก่อนวันปีใหม่ มีหลายครอบครัวเลยที่หาฤกษ์ยามงามดีเอาไว้คอยท่า น่ำเอี๊ยงผู้เชี่ยวชาญด้านการหาฤกษ์มงคลมาอย่างยาวนานกว่า 80 ปี เป็นหนึ่งในผู้ช่วยด้านการหาฤกษ์ยามสำหรับทำการมงคล  ไม่ว่าจะเป็น ฤกษ์คลอด ฤกษ์แต่งงาน ฤกษ์เปิดกิจการและฤกษ์ขึ้นบ้านใหม่ เพื่อให้ท่านมั่นใจได้ว่า ท่านจะได้รับฤกษ์ที่ดีที่สุด 
 
และเนื่องในวันดี ดิถือขึ้นปีใหม่นี้ นอกจากสาระความรู้ที่ได้นำมามอบให้กันแล้ว โหราศาสตร์น่ำเอี๊ยงก็ขอมอบของขวัญเป็นคำกล่าวอวยพรแก่ผู้อ่านทุกท่าน ได้สุขสวัสดี มีความสุขตลอดปี ตลอดไป

“新年快樂,身體健康”
 Xīnnián kuàilè, shēntǐ jiànkāng
“ซิงนี้ไคว่ลัก ซิงที่เกี่ยงคัง”

บทความล่าสุด

บทความที่เกี่ยวข้อง

Scroll to Top