top of page

ประวัติผู้ก่อตั้ง

           ผู้ก่อตั้งโหราศาสตร์น่ำเอี๊ยงคือซินแสเฮียง แซ่โง้ว  ท่านเกิดเมื่อปี พ.ศ. 2463 เป็นคนจีนแต้จิ๋ว บ้านเกิดอยู่ที่จังหวัดซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง  เหล่าซินแสตัดสินใจเดินทางมาประเทศไทยในปี พ.ศ. 2482 ซึ่งขณะนั้นท่านมีอายุ 18 ปี จุดมุ่งหมายเพื่อตามหาบิดาที่ลงเรือสำเภามาทำงานที่จังหวัดสงขลา ส่งรายได้กลับไปให้ครอบครัวที่ประเทศจีนในทุกๆ ปี จนกระทั่งขาดการติดต่อกับครอบครัว ถึงแม้จะทราบภายหลังว่าบิดาได้เสียชีวิตไปแล้ว แต่ด้วยความตั้งใจที่เป็นผู้รับหน้าที่ดูแลญาติๆ ในประเทศจีนแทนบิดาผู้ล่วงลับ เหล่าซินแสยังมีความเห็นว่าประเทศไทยเป็นอู่ข้าวอู่น้ำ เศรษฐกิจดี ค้าขายรุ่งเรือง ท่านจึงตัดสินใจเริ่มต้นทำธุรกิจใหม่ที่นี่

         เนื่องจากเหล่าซินแสมีความสนใจและศึกษาโหราศาสตร์มาตั้งแต่วัยเยาว์ โดยศึกษาตำราด้วยตนเองและแสวงหาคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญอย่างสม่ำเสมอตั้งแต่สมัยอยู่เมืองจีน โดยท่านเชื่อว่าโชคชะตาของมนุษย์ล้วนต่างกัน จึงทำให้ประสบความสำเร็จมากน้อยแตกต่างกันไปด้วย ซินแสจึงหวังที่จะเป็นผู้บอกเล่าให้ผู้คนเข้าใจดวงชะตาของตัวเองเพื่อทำให้คนเหล่านั้นปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตไปตามช่วงเวลาที่เหมาะสมของโชคชะตาตนเองได้ ดังนั้นท่านจึงนำความสนใจ ความรู้ และความเชี่ยวชาญที่ตนมีต่อโหราศาสตร์มายึดเป็นอาชีพ โดยท่านได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนที่รู้ภาษาไทย ช่วยเป็นล่ามแปลภาษาให้ โดยมีการทำนายดวงชะตาหลากหลายรูปแบบ คือ นกกระจอกทำนายไพ่จากสำรับ ดูโหงวเฮ้ง การขึ้นดวง (ปาจื้อ) การดูฤกษ์งามยามมงคลต่างๆ เดิมทีไม่มีหน้าร้านแต่ด้วยชื่อเสียงเรื่องความแม่นยำของคำทำนายทำให้ได้รับคำเชิญจากผู้คนในหลากหลายภูมิภาค จึงนั่งรถไฟออกเดินทางไปทั่วประเทศเพื่อไปดูดวงในจังหวัดต่างๆ

         ระยะเวลากว่าสิบปีที่เหล่าซินแสสะสมประสบการณ์และชื่อเสียงด้านความแม่นยำในการคำนวนดวงชะตา ส่งผลให้เป็นที่รู้จักในระดับประเทศ ในปี พ.ศ. 2499 เหล่าซินแสในวัย 35 ปี จึงมีผู้ใหญ่ที่น่าเคารพ ชักชวนให้มาเปิดสำนักที่พระนคร เดิมไม่มีที่อยู่อาศัยถาวร เมื่อมาถึงพระนครจึงอาศัยอยู่ที่โรงแรมสหกิจ  ไม่นานหลังจากสร้างเนื้อสร้างตัวได้ท่านก็ได้ซื้อบ้านซึ่งอยู่ด้านหลังสำนักปัจจุบัน ชีวิตของท่านได้ผ่านอุปสรรคหลากหลายอย่าง บางครั้งหนักหนาเสียจนสิ่งที่สร้างมาอย่างยาวนานเกือบสูญสิ้น แต่เหล่าซินแสก็ยังไม่ละทิ้งความพยายาม ยังคงดำเนินธุรกิจต่อไปอย่างสุจริต ไม่นานธุรกิจก็เฟื่องฟูขึ้น ท่านจึงได้ซื้อบ้านหลังที่สาม ซึ่งเป็นที่ตั้งของสำนักโหราศาสตร์น่ำเอี๊ยงในปัจจุบัน

bottom of page